๑๑๐ ปี วชิราวุธวิทยาลัย

VC Library
29 ธ.ค. 2563 1171 1 นาที

๑๑๐ ปี วชิราวุธวิทยาลัย

   

   

 

          เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๖ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ซึ่งในเวลานั้นคือพระยาไพศาลศิลปสาตร์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นการส่วนพระองค์ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อวันพุธที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๕๓ เพื่อรับกระแสพระราชดำริเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของชาติ

       
          ในวันรุ่งขึ้น วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๕๓ จึงได้ทำการเปิดโรงเรียนสำหรับมหาดเล็กข้าหลวงเดิมเป็นการชั่วคราว โดยได้แบ่งพื้นที่ของอาคารโรงเรียนราชกุมารเก่า ในพระบรมมหาราชวัง สำหรับโรงเรียนมหาดเล็กที่ต่อมา ได้พระราชทานนามโรงเรียนใหม่ว่า “โรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” โดยโรงเรียนสำหรับมหาดเล็กข้าหลวงเดิมที่เปิดทำการสอนขึ้นใหม่นั้น พระราชทานนามว่า “โรงเรียนมหาดเล็กหลวง”
       
          นอกจากนั้นยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท เป็นทุนนอนของโรงเรียน โดยได้นำไปฝากไว้กับแบงก์สยามกัมมาจล (ธนาคารไทยพาณิชย์ในปัจจุบัน)

    

          สำหรับโรงเรียนมหาดเล็กหลวง นอกจากจะเป็นสถานที่ทรงทดลองการจัดการศึกษาของชาติในลักษณะเดียวกับการที่ทรงตั้งดุสิตธานีสำหรับทดลองการปกครองในระบอบประชาธิไตยแล้วยังมีพระราชดำริอย่างใหม่ในการสร้างโรงเรียนแทนวัดด้วยทรงเล็งเห็นว่าในรัชสมัยของพระองค์มีพระอารามหลวงอยู่มากแล้ว หากสถาปนาพระอารามหลวงขึ้นอีกก็จะเป็นพระราชภาระในการบูรณปฏิสังขรณ์ อีกทั้งทรงเห็นว่าสิ่งจำเป็นในขณะนั้นคือการให้การศึกษาแก่ราษฎร อันจะนำพามาซึ่งความเจริญแก่ชาติบ้านเมืองในอนาคต

       

          ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้หาที่ตั้งถาวรของโรงเรียนมหาดเล็กหลวง โดยทรงให้พระยาไพศาลศิลปสาสตร์ (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) และพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ ไกรฤกษ์) จางวางมหาดเล็ก และกรรมการโรงเรียนมหาดเล็กหลวง เป็นผู้ไปตรวจพิจารณาหาสถานที่อันเหมาะสม ซึ่งได้พิจารณาเลือกที่ดินพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่ “สวนกระจัง” บริเวณริมคลอง เปรมประชากร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังดุสิตเป็นสถานที่ตั้งถาวรของโรงเรียน โดยทรง พระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้นายเอดเวิร์ด ฮีลี่ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนช่างของสามัคยาจารย์เป็นผู้วางผังโรงเรียนให้สอดรับกับวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เมื่อการก่อสร้างโรงเรียนชั่วคราวเป็นเรือนไม้หลังคามุงจากที่สวนกระจังแล้วเสร็จ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ย้ายนักเรียนจากโรงเรียนชั่วคราวในพระบรมมหาราชวังมาอยู่ที่โรงเรียนแห่งใหม่ ณ สวนกระจัง พร้อมกับทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดพิธีทำบุญขึ้นโรงเรียนใหม่เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๔       


  

 

          เมื่อนายเอดเวิร์ด ฮีลี่ พร้อมด้วยพระสมิทธเลขา (ปลั่ง วิภาตะศิลปิน) นายช่างออกแบบของกรมศิลปากรจัดการออกแบบก่อสร้างหอสวด และหอนอนของนักเรียนแล้วเสร็จ ได้โปรดพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน ๗๕๐,๐๐๐ บาท จัดสร้างโรงเรียนถาวรด้วยสถาปัตยกรรมไทยอันวิจิตร

 

 

       
          สำหรับการจัดการศึกษาของโรงเรียนมหาดเล็กหลวงนั้น นอกจากจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดการศึกษาไปในแนวทางแบบพับลิคสคูลของอังกฤษแล้ว ยังได้พระราชทานพระบรมราโชบายในการอบรมสั่งสอนนักเรียนมหาดเล็กหลวงไว้เป็นพิเศษ ดังปรากฎในพระราชบันทึกที่พระราชทานไปยังเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว.เปีย มาลากุล) เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ซึ่ง ม.ล.ปิ่น มาลากุล ได้นำมาแปลเป็นภาษาไทย ความว่า

          “ข้าส่งข้อความนี้มาเพื่อให้เสนาบดีและปลัดทูลฉลองกระทรวงธรรมการอ่าน ข้าได้ขีดเส้นแดงใต้ข้อความบางตอน คือ ตอนที่ถูกใจข้าและตอนที่แสดงให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งในเรื่องที่ข้ารู้สึกตลอดมา

          ระบบการศึกษาและกฎเกณฑ์ทั้งหลาย ตลอดจนหลักสูตรแท้จริงทำให้เปลืองกระดาษไปเปล่าๆ ยิ่งกว่านั้นคือ เปลืองเวลาด้วย ถ้าไม่ทำให้ประชาชนเป็นอย่างที่เราต้องการสำหรับประเทศของเราได้เป็นผลสำเร็จ ข้าไม่หมายความว่าอะไรดีสำหรับเมืองอังกฤษจะต้องดีสำหรับเมืองไทยด้วย ตรงกันข้าม ถ้าจะเอาวิธีการของคนอังกฤษมาใช้ทั้งดุ้นโดยไม่มีการดัดแปลง ก็จะเป็นการผิดพลาดอย่างมหันต์ แต่บันทึกนี้อาจทำให้ผู้อ่านเกิดความคิดอะไรบ้าง

          สำหรับโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ข้าไม่เป็นห่วงการปั้นนักเรียน “ชั้นมัธยม” ให้เป็นเทวดาเหมือน กันหมดทุกคน ได้คะแนนกันคนละหลายพันคะแนนเท่าการสร้างเด็กหนุ่มที่ขยันขันแข็ง และสะอาดทั้งทางร่างกายและจิตใจ เตรียมพร้อมที่จะรับภาระต่าง ๆ ซึ่งจะมีมาในอนาคต ข้าไม่ต้องการนักเรียนตัวอย่างที่สอบไล่ได้คะแนนขั้นเกียรตินิยมทุก ๆ ครั้ง ข้าไม่ต้องการตำราเรียนที่เดินได้ ที่ข้าอยากได้นั้นคือ เยาวชนที่เป็นสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย์สุจริต มีอุปนิสัยใจคอดี และข้าจะไม่โศกเศร้าเลย ถ้าเจ้ามารายงานว่า เด็กคนหนึ่งเขียนหนังสือไม่คล่อง คิดเลขเศษซ้อนไม่เป็น และไม่รู้วิชาเรขาคณิตเลย ถ้าข้ารู้ว่าเด็กคนนั้นได้ศึกษาพอที่จะรู้ว่าความเป็นลูกผู้ชายคืออะไร และขี้แยคืออะไร ข้าไม่อยากได้ยิน “คนฉลาด” บ่นอีกว่า “ปัญญาท่วมหัวเอาตัวไม่รอด” สิ่งที่ข้าต้องการในโรงเรียนมหาดเล็กหลวงคือ ให้การศึกษาเป็นเครื่องทำให้เด็กเป็นเยาวชนที่น่ารัก และเป็นพลเมืองดี ไม่ใช่ทำลายบุคลิกภาพเสียหมด โดยบรรทุกหลักสูตรและระบบการต่าง ๆ ลงไป ข้าต้องการให้การศึกษาเป็นสิ่งที่งดงาม จนทำให้เด็กที่ออกไปแล้วหวนกลับมาคิดถึงในวันข้างหน้าด้วยความภาคภูมิใจ ขออย่าเอาโรงเรียนของข้าไปเปรียบกับโรงเรียนอื่น เพราะมีจุดหมายต่างกัน ถ้าข้าอยากจะได้โรงเรียนธรรมดาเพียงหลังหนึ่งสร้างเป็นโรงเรียนไปมาจะไม่ดีกว่าหรือจะสร้างโรงเรียนกินนอนขึ้นมาทำไม


          ที่ข้ากล่าวมานี้จะเข้ากันได้กับระบบการศึกษาของเจ้าหรือไม่ก็ตาม ถ้าเข้ากันได้ข้าก็ดีใจ แต่ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็ขอให้วิธีการของข้าได้รับการพิจารณาดำเนินการโดยยุติธรรมด้วย อย่าพยายามบังคับให้ครูของข้าทำตามข้อไขของเจ้า ให้ทำตามข้อไขของข้าเถิด เพราะกีฬาประเภทนี้ข้าคิดให้เขาเล่น และตัวข้าเองจะเป็นผู้ให้ถ้วยรางวัล"



          ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๘ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๗ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และทรงรับเป็นองค์บรมราชูปถัมภกโรงเรียนมหาดเล็กหลวง แต่ด้วยในช่วงนั้นเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๑ ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกส่งผลกระทบให้สภาวะเศรษฐกิจไทยฝืดเคืองรัฐบาลจึงต้องปรับลดงบประมาณรายจ่ายลงรวมทั้งพระราชทรัพย์รายปีที่ถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ถูกตัดทอนลงด้วยจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯให้รวมโรงเรียนราชวิทยาลัยเข้ากับโรงเรียนมหาดเล็กหลวง กรุงเทพ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามโรงเรียนให้ใหม่ว่า “วชิราวุธวิทยาลัย” เมือวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๙ 
                

          ขอขอบคุณภาพพระบรมฉายาลักษณ์ลงสีจากเพจ S. Phormma's Colorizations

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไปหมายความว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขและนโยบายความเป็นส่วนตัว